กระคืออะไร
- เขียนโดย : drohadmin
- มีคนอ่านบทความไปแล้ว : 0
- วันที่อัพเดท : 25 March 2025
กระ (freckles) คือจุดสีเข้มหรือจุดสีน้ำตาลเล็กๆที่เกิดขึ้นบนผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณใบหน้าซึ่งมักเกิดจากการสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานานกระมักพบได้บ่อยในคนที่มีผิวขาวและผิวแพ้ง่ายแต่ก็สามารถพบได้ในคนที่มีสีผิวอื่นๆอีกด้วยสาเหตุหลักของการเกิดกระจะมาจากเม็ดสีเมลานินที่ผลิตขึ้นมาในปริมาณที่มากขึ้นเมื่อสัมผัสกับรังสี UV และแสงแดดกระจึงมักจะเห็นชัดในช่วงของฤดูร้อนหรือเมื่อถูกแดดบ่อยๆ
กระมีกี่ประเภทและมีลักษณะอย่างไรบ้าง?
1.กระตื้น (Ephelides)
- ลักษณะ: มีลักษณะปรากฏเป็นจุดสีน้ำตาลหรือแดงขนาดเล็กบนผิวหนังแขนหรือลำตัวจุดเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นเมื่อผิวหนังสัมผัสกับแสงแดดและสีของกระอาจจะเข้มขึ้นในช่วงของฤดูร้อนและจางลงในช่วงของฤดูหนาว
- สาเหตุ: สาเหตุของการเกิดกระชนชนิดนี้เกิดจากการเพิ่มขึ้นของเม็ดสีเมลานินในชั้นผิวหนังหลังจากที่ผิวสัมผัสโดยตรงกับรังสี UV
- พบบ่อย:ใน: คนที่มีผิวขาวหรือผิวแพ้ง่าย
2.กระลึก (Hori’s Nevus)
- ลักษณะ: การลึกมีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลเข้มหรือสีดำที่มีขนาดใหญ่กว่ากระตื้นมักเกิดขึ้นในบริเวณใบหน้าแขนหรือลำตัวกระดึกไม่จางหายไปตามฤดูกาลและจะยังคงอยู่ถาวรถ้าไม่ได้รับการรักษา
- สาเหตุ: เกิดจากการสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานานทำให้ผิวได้รับความเสียหายจากรังสี UV ที่เกิดการสะสม
- พบบ่อย: ในผู้สูงอายุหรือผู้ที่สัมผัสแสงแดดเป็นเวลานาน
3.กระแดด (Solar Lentigines)
- ลักษณะ: กระดาษเป็นจุดด่างดำหรือสีน้ำตาลที่มักจะเกิดขึ้นในบริเวณที่ได้รับแสงแดดบ่อยๆเช่นใบหน้าแขนและมือจุดเหล่านี้มักจะเป็นสีเข้มไม่หายไปเอง
- สาเหตุ: เกิดจากการสัมผัสรังสี UV จากแสงแดดเป็นเวลานานทำให้ผิวหนังสร้างเม็ดสีที่มากเกินไป
- พบบ่อย: ในผู้ที่มีอายุเพิ่มขึ้นหรือผู้ที่ทำกิจกรรมการแจ้งบ่อยครั้ง
4.กระเนื้อ (Seborrheic Keratosis)
- ลักษณะ: กระเนื้อเป็นตุ่มนูนสีน้ำตาลดำหรือเหลืองที่มีลักษณะเป็นปื้นหนาและผิวขรุขระมักจะเกิดขึ้นบริเวณหน้าคอหลังหรือหน้าอกกระเนื้อไม่ก่อให้เกิดอาการเจ็บปวดแต่ส่งผลต่อความสวยงาม
- สาเหตุ: เกิดจากการเติบโตของเซลล์ผิวหนังที่ผิดปกติซึ่งมักจะเกิดกรรมพันธุ์หรืออายุที่เพิ่มขึ้น
- พบบ่อย:ในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงทางพันธุกรรม
การป้องกันการเกิดกระสามารถทำได้โดยการใช้ครีมกันแดดเป็นประจำและหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดในช่วงเวลาที่มีแดดแรงหรือหาหมวกหรือเครื่องป้องกันเข้ามาสวมใส่เพื่อไม่ให้แสงแดดลงบนบริเวณใบหน้านานเกินไปเพราะแสงแดดและรังสี UV เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เราเกิดกระ
กระเกิดขึ้นได้อย่างไร?
กระเกิดขึ้นจากการผลิตเม็ดสีเมลานินในผิวหนังที่มากเกินไปโดยสาเหตุหลักมาจากการสัมผัสกับรังสี UV จากแสงแดดเมื่อผิวหนังได้รับแสงแดดร่างกายจะกระตุ้นให้เซลล์เม็ดสีที่เรียกว่า
“เมลาโนไซต์” ผลิตเมลานินเพิ่มขึ้นเพื่อปกป้องผิวหนังจากการถูกทำลายแต่ในบางกรณีเมลานินจะรวมตัวกันมากเกินไปในบางบริเวณของผิวหนังทำให้เกิดเป็นจุดเล็กๆสีน้ำตาลหรือเรียกว่า “กระ”
ปัจจัยอื่นที่ทำให้เกิดกระได้แก่:
1.พันธุกรรม: คนที่มีผิวขาวหรือผิวที่มีแนวโน้มจะเกิดกระง่ายมักมีปัจจัยทางพันธุกรรมที่ทำให้เกิดกระมากกว่าคนที่มีผิวคล้ำ
2.ฮอร์โมน: ความไม่สมดุลของฮอร์โมนเช่นในช่วงวัยรุ่นการตั้งครรภ์หรือการใช้ยาคุมกำเนิดอาจมีผลต่อการเกิดกระ
3.อายุ: กระที่เกิดจากแสงแดด (Solar Lentigines) มักปรากฏมากขึ้นตามอายุเนื่องจากผลสะสมของการสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานาน
การป้องกันกระคือการหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดในช่วงเวลาที่แดดแรงและการใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ
พฤติกรรมแบบไหนที่เสี่ยงเป็นกระ?
พฤติกรรมที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นกระมีดังนี้:
- ไม่ทาครีมกันแดด: การไม่ใช้ครีมกันแดดหรือใช้ไม่เพียงพอเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผิวโดนรังสี UV โดยตรงส่งผลให้เซลล์เม็ดสีเมลานินผลิตมากขึ้นและทำให้เกิดกระ
- สัมผัสแสงแดดเป็นเวลานาน: การอยู่การแจ้งเป็นเวลานานโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่แดดแรง
(ประมาณ 10:00 น. จนถึง 16:00 น.) เพิ่มโอกาสในการเกิดกระ
- ไม่ใส่เสื้อผ้าป้องกันแสงแดด: การไม่ใส่หมวกแว่นกันแดดหรือเสื้อแขนยาวเมื่อต้องออกไปเจอแดดทำให้ผิวได้รับรังสี UV มากขึ้น
- ใช้ผลิตภัณฑ์ที่กระตุ้นให้ผิวไวต่อแสงแดด: บางผลิตภัณฑ์เช่นยารักษาสิวบางชนิดหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด เช่น (กรดเรติโนอิก) อาจทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้นเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดกระ
- ทำกิจกรรมการแจ้งบ่อยครั้ง: คนที่ชอบทำกิจกรรมการแจ้งเช่นกันวิ่งว่ายน้ำขี่จักรยานหรือเล่นกีฬากลางแจ้งอย่าสัมผัสแสงแดดมากขึ้นและมีความเสี่ยงต่อการเกิดกระมากขึ้น
- ไม่หลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วงเวลาแดดจัด: การไม่พยายามหลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วงเวลาแดดแรงหรือการไม่ได้ป้องกันผิวจากรังสี UV ในช่วงนี้สามารถเพิ่มโอกาสในการเกิดกระได้
- ไม่ฟื้นฟูผิวหลังจากการโดนแดด: การไม่ดูแลผิวหลังจากที่ผิวโดนแดดเช่นการทาครีมบำรุงผิวหรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดผลกระทบจากรังสี UV อาจเพิ่มโอกาสในการเกิดกระมากขึ้น
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้และการป้องกันแสงแดดอย่างเหมาะสมและเคร่งครัดจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดกระได้และส่งผลให้เกิดการสูญเสียค่าใช้จ่ายในอนาคต
วิธีการรักษากระ
วิธีการรักษากระมีหลากหลายวิธีขึ้นอยู่กับความลึกและลักษณะของกระที่เกิดขึ้นแต่ละวิธีสามารถใช้ร่วมกันได้ตามคำแนะนำของแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญโดยมีวิธีการดังนี้
- การใช้ครีมรักษากระ
- ครีม Whitening: ช่วยลดเลือนจุดด่างดำและกระ โดยมีส่วนผสมที่ช่วยยับยั้งการผลิตเมลานินเช่น วิตามินซี กรดโคจิ กรดอาซีเลอิก (Azelaic acid)
- ครีมผลัดเซลล์ผิว: เช่นกรดเรติโนอิก (Retinoic acid) หรือกรดอาซีเลอิก (Azelaic acid)ช่วยในการผลิตเซลล์ผิวเก่าที่มีเม็ดสีสะสมออกทำให้กระจางลง
- การทำเลเซอร์
- เลเซอร์แบบ Q-switched: เลเซอร์ที่ทำลายเม็ดสีเมลานินในชั้นผิวหนังทำให้กระจ่างลงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดโดยเฉพาะกระที่เกิดจากแสงแดด
- IPL (Intense Pulsed Light): คล้ายกับเลเซอร์แต่ใช้แสงความเข้มข้นสูงในการรักษาสามารถช่วยลดเลือนกระและจุดด่างดำได้
- การทำทรีทเม้นผิว
- การทำเคมีลอกผิว (Chemical Peeling): การใช้สารเคมีเช่นกรดไกลโคลิก (Glycolic acid) หรือกรดซาลิไซลิก (Salicylic acid): เพื่อผลัดเซลล์ผิวเก่าออกทำให้กระจางลงและดูผิวสว่างขึ้น
- การกรอผิวด้วยผลึกละเอียด (Microdermabrasion): การขัดผิวชั้นนอกเพื่อช่วยลดเลือนกระและทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
- การทำทรีทเม้นท์ด้วยวิธีธรรมชาติ
- น้ำมะนาว: กรดซิติกในน้ำมะนาวมีคุณสมบัติช่วยลดเลือนกระได้อย่างไรก็ตามควรใช้อย่างระมัดระวังเพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองหรือไวต่อแสงแดด
- โยเกิร์ตและนม: มีกรดแลคติกที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนอาจทำให้กระจางลงได้
- ว่านหางจระเข้: สารในว่านหางจระเข้สามารถช่วยลดเลือนการผลิตเมลานินทำให้กระจางลงและบรรเทาอาการระคายเคืองได้
- การป้องกันกระใหม่
- ทาครีมกันแดดเป็นประจำ: เลือกครีมกันแดดที่มี SPF สูงอย่างน้อย 30 และป้องกันทั้งรังสี UVA และ UVB ทำซ้ำทุก 2 ชั่วโมงเมื่อออยู่กลางแจ้ง
- สวมใส่เสื้อผ้าป้องกันแสงแดด: ใส่หมวกแว่นกันแดดและเสื้อแขนยาวเพื่อป้องกันผิวจากแสงแดดโดยตรง
- การรักษาด้วยยา
- แพทย์อาจจะจ่ายยาที่มีส่วนผสมของสารยับยั้งแม่ลานินเช่นไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) ที่ช่วยลดเลือนจุดด่างดำและกระได้แต่คนใช้ภายใต้การควบคุมของแพทย์เนื่องจากอาจเกิดผลข้างเคียง
หากระลึกหรือกังวลเกี่ยวกับกระควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาที่เจาะจงเพื่อให้ผลลัพธ์ตรงใจ
ที่ ดร.โอ้ คลินิกน่าน เราภูมิใจที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการกำจัดกระที่ดีที่สุดในจังหวัดน่านด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยปลอดภัยและได้มาตรฐานระดับสากลเรามี 3 เครื่องมือที่ช่วยให้การรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับปัญหาของผิวลูกค้าแต่ละคน
- Dual Yellow Laser
- คุณสมบัติ: เป็นเลเซอร์ที่ใช้เทคโนโลยีผสมของแสงสีเหลืองและแสงสีเขียวเพื่อการรักษาเฉพาะจุดโดยสามารถเลือกใช้ความยาวคลื่นที่เหมาะสมกับปัญหาผิวเช่นการลดเลือนจุดด่างดำลดเลือนรอยแดงและทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้นอีกด้วย
- จุดเด่น: มีความสามารถในการทำลายเม็ดสีที่เป็นสาเหตุของกระโดยตรงโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อโดยรอบอีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวลึกทำให้ผิวเรียบเนียนอีกด้วย
- เหมาะสำหรับ: กระตื้นหรือกระที่เกิดจากแสงแดดและสามารถรักษาให้จางลงได้ในระยะเวลาสั้น
- Fractional CO2 Laser
- คุณสมบัติ: เป็นเลเซอร์ที่ทำงานในการยิงลำแสงเล็กๆเข้าไปในชั้นผิวหนังเพื่อทำลายเนื้อเยื่อที่มีเม็ดสีผิดปกติและกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อผิวใหม่ช่วยให้ผิวมีความเรียบเนียนและลดเลือนรอยกระได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- จุดเด่น: มีประสิทธิภาพสูงในการลอกผิวเก่าที่เสียหายออกและสร้างผิวใหม่ในเวลาเดียวกันช่วยรักษากระลึกและรอยแผลเป็นจากกระได้ดี
- เหมาะสำหรับ: กระลึกและกระที่เกิดจากการโดนแดดซึ่งต้องการการรักษาลึกลงไปในชั้นผิว
3. Ultrapulse CO2 Laser
- คุณสมบัติ: เป็นเลเซอร์ที่ทำงานด้วยความแม่นยำสูงในการรักษาปัญหาผิวที่มีรอยโรคเม็ดสีมีความสามารถในการลอกผิวเก่าที่ลึกมากกว่า Fractional CO2 ช่วยลดเลือนกาดที่ลึกและฝังแน่นได้อย่างชัดเจน
- จุดเด่น: เลเซอร์ชนิดนี้มีพลังงานในการทำลายแม่สีที่ฝังอยู่ลึกในชั้นผิวโดยไม่ทำให้ผิวที่อยู่รอบๆบริเวณนั้นเสียหายทำให้ผลลัพธ์ของการรักษาชัดเจนและผิวฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
- เหมาะสำหรับ: กระที่ลึกลงไปในชั้นผิวและผู้ที่ต้องการรักษาการที่มีความฝังแน่นเป็นพิเศษ
ดร. โอ้ คลินิกน่าน ภูมิใจนำเสนอเทคโนโลยีที่ทันสมัยเหล่านี้เพื่อการรักษาการทุกประเภทได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยลูกค้าสามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพผิวและเลือกรูปแบบการรักษาที่เหมาะสมที่สุด
ราคารักษากระที่ Dr.OH Clinic มีให้เลือกหลากหลายราคาตามลักษณะของกระ
- ที่ Dr.OH Clinic ผู้ป่วยสามารถเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับงบประมาณของตัวเองและยังสามารถเลือกโปรโมชั่นหรือ Package เสริมที่คลินิกมีให้ในแต่ละเดือน
- การรักษากระด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยนอกจากแล้วยังช่วยให้ผลลัพธ์เป็นไปอย่างแม่นยำ ทำให้คุ้มค่ากับการลงทุน