รักษาฝ้าที่ Dr.OH Clinic
- เขียนโดย : drohadmin
- มีคนอ่านบทความไปแล้ว : 0
- วันที่อัพเดท : 24 March 2025
การรักษาฝ้าที่ Dr.OH Clinic ดีอย่างไร
Dr.OH Clinic เป็นคลินิกที่ได้รับความนิยมในการรักษาฝ้า ด้วยเหตุผลหลายประการดังนี้
- แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ : Dr.OH Clinic ก่อตั้งโดย นพ.ชนุดม เจนครองธรรม แพทย์ผู้มีประสบการณ์ในการรักษาปัญหาผิวมากกว่า 5 ปี และมีประสบการณ์การใช้ PicoSure laser ซึ่งเป็นเลเซอร์ที่ได้รับความนิยมในการรักษาฝ้า มามากกว่า 1,000 เคส
- เทคโนโลยีที่ทันสมัย : Dr.OH Clinic มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการรักษาฝ้า เช่น PicoSure laser ซึ่งเป็นเลเซอร์ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกา (USFDA) ว่ามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงในการรักษาฝ้า
- การดูแลที่ใส่ใจ: Dr.OH Clinic ให้ความสำคัญกับการดูแลคนไข้แบบองค์รวม โดยมีการให้คำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีการติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิด
- ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ: Dr.OH Clinic มีรีวิวจากคนไข้จำนวนมากที่แสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจในการรักษาฝ้า
อย่างไรก็ตาม การรักษาฝ้าขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สาเหตุของฝ้า ชนิดของฝ้า และสภาพผิวของแต่ละบุคคล ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเข้ารับการรักษา ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพผิว และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
ทำไมใครๆก็ไว้ใจ รักษาฝ้าที่ ดร.โอ้ คลินิกน่าน
Dr.OH Clinic ได้รับความหมายวางใจจากคนไข้ในการรักษาฝ้า ด้วยเหตุผลหลายประการที่ทำให้ Dr.OH Clinic โดดเด่นกว่าที่อื่นๆ ลองมาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
1.ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของแพทย์
- ผู้ก่อตั้งมากประสบการณ์ : Dr.OH Clinic ก่อตั้งโดย นพ.ชนุดม เจนตรองธรรม หรือ “หมอโอ้” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเลเซอร์ มีประสบการณ์รักษาปัญหาริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำ มากกว่า 5 ปี
- เชี่ยวชาญ PicoSure : Dr.OH Clinic มีประสบการณ์การใช้ PicoSure Laser ซึ่งเป็นเลเซอร์ที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษาฝ้า มามากกว่า 1,000 เคส จึงมั่นใจได้ในความเชี่ยวชาญ
- อัปเดตความรู้ : Dr.OH Clinic ไม่หยุดพัฒนา เข้าร่วมอบรมความรู้ด้านเลเซอร์ใหม่ๆอยู่เสมอ มีเพื่อนำเทคนิคที่ดีที่สุดมาใช้รักษาคนไข้ เช่น การเข้าร่วมอบรม PICOSURE PRO FOCUS 2023
2.เทคโนโลยีที่ทันสมัย
- PicoSure Laser : เป็นเลเซอร์ที่ได้รับการรับรองจาก USFDA มีความปลอดภัยสูง และมีประสิทธิภาพในการรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยสัก โดยการปล่อยพลังงานแบบพิโคเซคันด์ ทำให้เม็ดสีแตกตัวละเอียด โดยไม่ทำลายผิวรอบข้าง
- เครื่องมือที่ทันสมัย นอกจาก PicoSure ยังมีเลเซอร์และเครื่องมืออื่นๆ ที่ทันสมัย เพื่อให้การรักษาฝ้า กระ และปัญหาผิวอื่นๆ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
3.การดูแลเอาใจใส่
- ให้คำปรึกษา : Dr.OH Clinic ให้คำปรึกษาอย่างละเอียด วิเคราะห์ปัญหาผิว และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
- ใส่ใจทุกขั้นตอน : มีทีมงานคอยดูแลเอาใจใส่ สร้างความรู้สึกสบายใจให้คนไข้ตลอดการรักษา
- ติดตามผล : มีการติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่าคนไข้จะได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
4. ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
- รีวิวจากผู้ใช้จริง : มีรีวิวจากคนไข้จำนวนมากที่แสดงถึงความพึงพอใจในการรักษาฝ้าที่ Dr.OH Clinic
- เห็นผลลัพธ์ชัดเจน : คนไข้ส่วนใหญ่เห็นการเปลี่ยนแปลงของผิว ฝ้าจางลง อยู่เรียบเนียนมากยิ่งขึ้น
- ความปลอดภัย : การรักษาที่ Dr.OH Clinic มีความปลอดภัย ไม่เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง
5. บรรยากาศคลินิก
- ผ่อนคลาย : คลินิกมีบรรยากาศที่ผ่อนคลาย สะอาด และเป็นกันเอง ทำให้คนไข้รู้สึกสบายใจ
- เดินทางสะดวก : ตั้งอยู่บนถนนมหายศ อ.เมือง จ.น่าน เดินทางสะดวก หาได้ง่าย ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ จึงทำให้ใครๆ ก็ไว้วางใจเลือก Dr.OH Clinic ในการรักษาฝ้า กระ และปัญหาผิวพรรณต่างๆ
ฝ้ารักษาหายได้หรือไม่?
คำถามนี้เป็นคำถามที่คนเป็นฝ้าสงสัยกันมาก ขอตอบตรงๆเลยว่า “ฝ้า” ยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ 100% แต่ไม่ต้องเสียใจไป เพราะปัจจุบันมีวิธีรักษาที่ช่วยให้ฝ้าจางลง จนแทบจะมองไม่เห็น และควบคุมไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำได้
ทำไมฝ้าถึงรักษาไม่หายขาด?
- ปัจจัยภายใน : ว่าเกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของเม็ดสีเมลานิน ซึ่งมีปัจจัยกระตุ้นหลายอย่าง เช่น ฮอร์โมน พันธุกรรม แสงแดด
- เม็ดสีฝังลึก : เม็ดสีเมลานินที่ผิดปกติ มาฝังตัวอยู่ในชั้นผิวหนังที่ลึก ทำให้รักษาได้ยาก
- แนวโน้มกลับมาเป็นซ้ำ : แม้รักษาจนฝ้าจางลงแล้ว แต่ถ้าไม่ดูแลตัวเอง และหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น ฝ้าก็มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้อีก
วิธีรักษาฝ้าให้จางลง
แม้ว่าจะรักษาไม่หายขาด แต่ก็มีวิธีที่ช่วยให้ฝ้าจางลง และควบคุมไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำได้ เช่น
- ทายา : ยาคุมไฮโดรควิโนน กรดวิตามินเอ กรดผลไม้ ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีและผลัดเซลล์ผิวใหม่
- เลเซอร์ : เช่น PicoSure Laser, Q-Switched Nd:YAG Laser ช่วยทำลายเม็ดสี โดยไม่ทำลายผิวรอบข้าง
- ทรีตเม้นท์ : เช่น การผลัดเซลล์ผิวด้วยเคมี ไอออนโต ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดการสร้างเม็ดสี
- การดูแลตัวเอง : สำคัญที่สุด ต้องทาครีมกันแดดเป็นประจำ หลีกเลี่ยงแสงแดด สวมหมวก ใส่เสื้อแขนยาว และดูแลสุขภาพผิวโดยรวมทั้งหมด
เลือกวิธีรักษาฝ้าอย่างไร?
ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง เพื่อประเมินสภาพผิว และเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
Dr.OH Clinic ช่วยคุณได้ : ที่ Dr.OH Clinic เรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น PicoSure Laser พร้อมให้คำปรึกษา และวางแผนการรักษาฝ้าที่เหมาะสมกับคุณ เพื่อให้คุณมีผิวหน้าที่เรียบเนียน กระจ่างใส ไร้ฝ้า อย่างมั่นใจ
โปรแกรมที่ช่วยกำจัดฝ้าที่ Dr.OH Clinic มีอะไรบ้าง ?
จากรายการโปรแกรมที่ให้มา ขอเลือกโปรแกรมที่ช่วยกำจัดฝ้า ได้แก่
1. PicoSure Laser
PicoSure Laser เป็นเลเซอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการรักษาฝ้า ด้วยเทคโนโลยี Picosecond ที่ปล่อยพลังงานแสงในช่วงเวลาสั้นๆ ระดับพิโคเซคันด์ (หนึ่งในล้านล้านวินาที) ทำให้เม็ดสีเมลานินที่เป็นสาเหตุของฝ้า แตกตัวเป็นอนุภาคขนาดเล็กละเอียด ร่างกายจึงสามารถกำจัดออกไปได้อย่างง่ายดาย
PicoSure Laser ทำงานอย่างไรกับฝ้า?
- พนักงานแสงแบบเฉพาะเจาะจง : พลังงานแสงจาก PicoSure Laser จะถูกส่งไปยังเม็ดสีเมลานินที่ผิดปกติ โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อข้างเคียง
- แต่งตัวเป็นอนุภาคเล็ก : ไม่สีจะดูดซับพลังงาน และแตกตัวเป็นอนุภาคขนาดเล็กมาก
- กำจัดออกตามธรรมชาติ : อนุภาคเม็ดสีขนาดเล็กเหล่านี้ จะถูกกำจัดออกจากร่างกายตามกลไกธรรมชาติ
- กระตุ้นคอลลาเจน : นอกจากนี้ PicoSure Laser ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวเรียบเนียนและลดเลือนริ้วรอยได้อีกด้วย
ข้อดีของการรักษาฝ้าด้วย PicoSure Laser
- เห็นผลลัพธ์รวดเร็ว : ฝ้าจางลง ผิวกระจ่างใสขึ้น ตั้งแต่ครั้งแรกที่รักษา
- ปลอดภัย ผลข้างเคียงน้อย : เหมาะกับคนไทย ที่มักมีปัญหาเรื่องเม็ดสี
- ลดโอกาสฝ้ากลับมาเป็นซ้ำ : เมื่อรักษาต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
2. Q-Switched Nd:YAG Laser
Q-Switched Nd:YAG Laser ปริ้นเลเซอร์อีกชนิดที่นิยมใช้ในการรักษาฝ้าโดยมีหลักการทำงานคล้ายกับ PicoSure Laser คือ ปล่อยพลังงานแสง เพื่อทำลายเม็ดสีเมลานินแต่ Q-Switched Nd:YAG Laser จะปล่อยพลังงานในช่วงเวลาที่ยาวนานกว่า คือ ระดับนาโนวินาที(หนึ่งในพันล้านวินาที)
Q-Switched Nd:YAG Laser ทำงานอย่างไรกับฝ้า?
- พลังงานแสงความเข้มข้นสูง: เลเซอร์จะปล่อยพลังงานแสง ที่มีความเข้มข้นสูงในช่วงเวลาสั้นๆ
- เลือกทำลายเม็ดสี: พลังงานแสงจะถูกดูดซับโดยเม็ดสีเมลานิน โดยเฉพาะ ทำให้เม็ดสีแตกตัว
- กำจัดเม็ดสี: เซลล์ Macrophage ในร่างกาย จะกำจัดเม็ดสีที่แตกตัวออกไป
ข้อดีของการรักษาฝ้าด้วย Q-Switched Nd:YAG Laser
- ประสิทธิภาพสูง: ช่วยลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ปลอดภัย: มีความปลอดภัยสูง เมื่อทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- ราคา: โดยทั่วไป มีราคาถูกกว่า PicoSure Laser
3. IPL (Intense Pulsed Light)
IPL เป็นเทคโนโลยีแสง ที่ปล่อยคลื่นแสงความเข้มข้นสูง ที่มีช่วงความยาวคลื่นหลากหลาย เพื่อแก้ปัญหาผิวพรรณ เช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยแดง รอยสิว
IPL ทำงานอย่างไรกับฝ้า?
- คลื่นแสงหลายความยาวคลื่น: IPL ปล่อยคลื่นแสง ที่ครอบคลุมช่วงความยาวคลื่น ที่เม็ดสีเมลานินดูดซับได้ดี
- ดูดซับพลังงาน: เม็ดสีเมลานิน จะดูดซับพลังงานแสง และแตกตัวออกเป็นอนุภาคเล็กๆ
- ผลัดเซลล์ผิว: IPL ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวเรียบเนียน กระจ่างใสขึ้น
ข้อดีของการรักษาฝ้าด้วย IPL
- รักษาปัญหาผิวได้หลากหลาย: นอกจากฝ้า ยังช่วยแก้ปัญหา กระ จุดด่างดำ รอยแดง รอยสิว
- ไม่ทำลายผิว: IPL ไม่ทำให้เกิดแผล
- ระยะเวลาพักฟื้นน้อย: หลังทำ สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
หมายเหตุ: การเลือกวิธีรักษาฝ้า ขึ้นอยู่กับชนิดของฝ้า ความรุนแรง และสภาพผิวของแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมิน และเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และปลอดภัย
ชนิดของฝ้า ที่หมอแนะนำให้เข้ามาทำการรักษา
หมอแนะนำให้เข้ามาปรึกษา และรับการรักษาฝ้าทุกชนิด เพราะฝ้าแต่ละชนิดมีความลึก และการตอบสนองต่อการรักษาที่แตกต่างกัน การวินิจฉัยที่ถูกต้องจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม และได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ชนิดของฝ้า ที่พบบ่อย
ฝ้าตื้น (Epidermal Melasma)
- เกิดจากเม็ดสีเมลานิน ที่สะสมตัวอยู่ในชั้นหนังกำพร้า ซึ่งเป็นชั้นผิวหนังส่วนบน
- ลักษณะ : เป็นปื้นสีน้ำตาล ขอบเขตชัดเจน
- การรักษา : ตอบสนองต่อการรักษาได้ดี เช่น การทายา เลเซอร์ การผลัดเซลล์ผิว
ฝ้าลึก (Dermal Melasma)
- เกิดจากเม็ดสีเมลานิน ที่สะสมตัวอยู่ในชั้นหนังแท้ ซึ่งเป็นชั้นผิวหนังที่ลึกกว่า
- ลักษณะ : เป็นปื้นสีน้ำตาลอมเทา ขอบเขตไม่ชัดเจน
- การรักษา : รักษาได้ยากกว่าฝ้าตื้น มักต้องใช้หลายวิธีร่วมกัน เช่น เลเซอร์ ร่วมกับการทายา
ฝ้าผสม (Mixed Melasma)
- เป็นฝ้าที่พบได้บ่อยที่สุด มีลักษณะผสมผสานระหว่างฝ้าตื้น และฝ้าลึก
- ลักษณะ : มีทั้งสีน้ำตาลเข้มและสีน้ำตาลอมเทา
- การรักษา : ต้องรักษาแบบผสมผสาน เพื่อจัดการกับทั้งฝ้าตื้น และฝ้าลึก
นอกจากชนิดของฝ้ายังมีปัจจัยอื่นๆที่ต้องพิจารณาในการรักษาเช่น
- สีผิว : คนที่มีสีผิวเข้มมีโอกาสเกิดรอยดำหลังการรักษาได้มากกว่า
- ความไวของผิว : คนที่มีผิวแพ้ง่าย ต้องเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม
- สาเหตุของฝ้า : เช่น ฝ้าจากแสงแดด ฝ้าจากฮอร์โมน
- สุขภาพโดยรวม : เช่่น โรคประจำตัว การตั้งครรภ์
Dr.OH Clinic พร้อมดูแลคุณ ที่ Dr.OH Clinic เรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมให้คำปรึกษา และวางแผนการรักษาฝ้าที่เหมาะสมกับคุณ โดยคำนึงถึงชนิดของฝ้า สภาพผิว และปัจจัยอื่นๆ เพื่อให้คุณมีผิวหน้าที่เรียบเนียน กระจ่างใส ไร้ฝ้า อย่างมั่นใจ