ฉีดฟิลเลอร์ปาก
- เขียนโดย : drohadmin
- มีคนอ่านบทความไปแล้ว : 0
- วันที่อัพเดท : 27 March 2025
ฟิลเลอร์ปากคืออะไร ? เหมาะกับใครบ้าง ?
ฟิลเลอร์ปาก (Lip Filler) การฉีดสารเต็มเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอชิด (Hyaluronic Acid หรือ
HA) เข้าไปที่บริเวณริมฝีปาก เพื่อช่วยเพิ่มความอวบอิ่ม เดิมเต็มริมฝีปากที่บาง ปรับรูปทรงปากให้ได้
สัดส่วนสวยงาม หรือแก่ไขปัญหาปากไม่สมมาตร นอกจากนี้ฟิลเลอร์ปากยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดริ้ว
รอยบริเวณริมฝีปาก ทำให้ดูอ่อนเยาว์และสุขภาพดีขึ้นอีกด้วย
ประเภทของฟิลเลอร์ที่ใช้สำหรับริมฝีปาก
1. ฟีลเลอร์เน้นความอวบอิ่ม (Volumizing Filler) : เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปากที่ดูอวบอิ่ม เซ็กซี่
และมีวอลลุ่มชัดเจน
2. ฟีลเลอร์เน้นความเป็นธรรมชาติ (Soft Natural Filler) : เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความเรียบ
เนียนและความสมดุลของรูปทรงปาก โดยยังคงดูเป็นธรรมชาติ
3. ฟิลเลอร์เพิ่มความชุ่มชื้น (Hydrating Filler) : ช่วยฟื้นฟริมฝีปากที่แห้งแตกให้ดูอิ่มน้ำและสุขภาพ
ดี
ฟิลเลอร์ปากเหมาะกับใครบ้าง?
- ผู้ที่มีริมฝีปากบาง : อยากเพิ่มความอวบอิ่มให้ดูโดดเด่น
- ผู้ที่มีรูปทรงปากไม่สมมาตร : เช่น ปากบนและปากล่างไม่สมดุลกัน
- ผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาริ้วรอยบริเวณริมฝีปาก : เช่น รอยย่นจากการแสดงอารมณ์หรือสูบบุหรี่
- ผู้ที่อยากปรับทรงปากให้สวยขึ้น : เช่น การทำปากกระจับ หรือเพิ่มมิติให้ปากดูมีเสน่ห์
- ผู้ที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง : ด้วยการปรับลุคให้ดูสดใสและอ่อนเยาว์
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ปาก
1. ปรับรูปทรงปากได้ทันที : เห็นผลลัพธ์ชัดเจนหลังทำ
2. ปลอดภัย : สาร HA สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ
3. ไม่ต้องผ่าตัด : ใช้เวลาไม่นาน ไม่ต้องพักฟื้น
4. ฟื้นฟูริมฝีปากให้สุขภาพดีขึ้น : เพิ่มความชุ่มชื้นและลดริ้วรอย
ข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก
- เลือกคลินิกที่มีมาตรฐานและแพท์ย์ผู้เชี่ยวชาญ
- ตรวจสอบยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้ว่ามี อย. รับรอง
- ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินรูปทรงปากที่เหมาะสมกับโครงหน้า
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาหรืออาหารเสริมบางชนิดก่อนฉีด เช่น แอสไพริน และวิตามินอี
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดแรงบริเวณริมฝีปาก
- งดการออกกำลังกายหนักและความร้อน เช่น ชาวน่า อย่างน้อย 48 ชั่วโมง
- ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์คงตัวและริมฝีปากชุ่มชื้น
- หากมีอาการบวมแดงเล็กน้อย สามารถประคบเย็นเพื่อลดอาการได้
ฟิลเลอร์ปาก ถือเป็นหนึ่งในหัดถการที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เพราะสามารถเปลี่ยนลุคและเพิ่ม
ความมั่นใจได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ควรเลือกทำกับคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อผลลัพธ์ที่
ปลอดภัยและน่าพอใจ
ขั้นตอนและเทคนิดการฉีดฟิลเลอร์ปาก : รูปทรงที่นิยมและผลลัพธ์ที่ได้ เหมาะกับใครบ้าง
การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นหัดการที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากช่วยปรับรูปทรงริมฝีปากให้ดูสวยสม
ส่วน เพิ่มความอวบอิ่ม และแก้ไขจุดบกพร่องได้อย่างรวดเร็ว ในบทความนี้ เราจะพูดถึงขั้นดอนการ
ฉีดฟีลเลอร์ เทคนิคต่าง ๆ รูปทรงปากยอดนิยม และผลลัพธ์ที่ได้ รวมถึงกลุ่มคนที่เหมาะกับหัตถการนี้
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ปาก
1. การปรึกษาแพทย์ :
- แพทย์จะประเมินรูปทรงปากของผู้เข้ารับบริการ พร้อมให้ดำแนะน่าเกี่ยวกับรูปรูปทรงที่เหมาะสมตามโครงหน้า และปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องใช้
- ตรวจสอบประวัติการแพ้ยาหรือสารต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัย
2. การเตรียมตัวก่อนฉีด :
- ทำความสะอาดริมฝีปากและบริเวณโดยรอบ
- ทายาชาหรือฉีดยาชาเพื่อช่วยลดความเจ็บระหว่างทำ
3. การฉีดฟิลเลอร์ :
- แพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กฉีดฟิลเลอร์เข้าบริเวณที่ต้องการปรับรูปทรง
- ระหว่างการฉีด แพทย์จะปั้นและปรับรูปทรงริมฝีปากอย่างละเอียด เพื่อให้ใต้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบ
4. ตรวจสอบผลลัพธ์ :
- หลังฉีดเสร็จ แพทย์จะตรวจความสมมาตรของปากและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลหลังทำ
เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ปาก
1. เทคนิคฉีดเติมเต็มวอลลุ่ม (Volume-Enhancing) :
เพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปากเหมาะสำหรับผู้ที่มีริมฝีปากบางหรืออยากได้ลดปากเซ็กซี่แบบโดดเด่น
2. เทคนิคฉีดเพื่อปรับสมดุล (Symmetry Correction) :
ใช้ปรับสมดุลของริมฝีปากบนและล่างให้ดูเท่ากัน เช่น กรณีปากไม่สมมาตร
3. เทคนิคฉีดเพิ่มความชุ่มชื้น (Hydration Technique) :
เน้นการเติมฟิลเลอร์ที่บางเบาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ให้ปากดูสุขภาพดี
4. เทคนิคปากกระจับ (Cupid’s Bow Shaping) :
ปรับรูปทรงให้ขอบปากเป็นกระจับชัดเจน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลุคที่ดูอ่อนหวาน
รูปทรงปากที่ได้รับความนิยม
1. ปากกระจับ (Cupid’s Bow) :
ทรงยอดฮิตในเอเชียที่เน้นขอบปากบนเป็นกระจับชัดเจน ทำให้ใบหน้าดูหวานและมีมิติ
2. ปากอวบอิ่มแบบสายฝอ (Full Lips) :
ทรงปากที่ดูเซ็กซี่ อวบอิ่ม และมีวอลลุ่มแบบลุคสาวต่างประเทศ
3. ปากทรงธรรมชาติ (Natural Lips) :
เน้นความเป็นธรรมชาติ ปรับรูปทรงเพียงเล็กน้อยให้ดูสมดุล เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากให้ปากดู
เปลี่ยนแปลงมากเกินไป
ผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดฟิลเลอร์ปาก
– ริมฝีปากดูอวบอิ่ม : เพิ่มความมีมิติให้ใบหน้า
– รูปทรงปากสมดุลขึ้น : แก้ปัญหาปากเบี้ยวหรือไม่สมส่วน
– ริมฝีปากชุ่มชื้น : ลดปัญหาปากแห้งแตก
– เพิ่มความมั่นใจ : ช่วยให้ใบหน้าโดยรวมดูสดใสและมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น
การฉีดฟิลเลอร์ปากเหมาะกับใครบ้าง?
1. ผู้ที่มีริมฝีปากบาง : ต้องการเพิ่มความอวบอิ่ม
2. ผู้ที่มีปากไม่สมมาตร : เช่น ปากบนเล็กกว่าปากล่างหรือมีความเบี้ยว
3. ผู้ที่ต้องการลุคเซ็กซี่หรืออ่อนหวาน : โดยปรับรูปทรงให้ตรงกับความต้องการ
4. ผู้ที่มีปัญหาปากแห่งแตก : ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้น
5. ผู้ที่ต้องการเสริมความมั่นใจในตัวเอง : ด้วยการปรับลุคให้ดูดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
การเลือกคลินิกและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
การฉีดฟิลเลอร์ปากควรทำโดยแพท์ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญสูง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่
ปลอดภัยและสวยงาม นอกจากนี้ การเลือกคลินิกที่ใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย. เป็นสิ่งสำคัญ
ที่ไม่ควรมองข้าม
การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก : ข้อควรระวังและเคล็ดลับเพื่อผลลัพธ์ที่ยาวนาน
การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นวิธีที่ช่วยปรับรูปทรงริมฝีปากให้ดูสวยงาม อวบอิ่ม และมีเสน่ห์ได้อย่าง
รวดเร็ว แต่การดูแลตัวเองหลังท่าถือเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานและลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียง ในบทความนี้เราจะพูดถึงข้อควรระวังและเคล็ดลับดูแลริมฝีปากหลังฉีดฟิลเลอร์ พร้อมทั้ง
บอกว่าเหมาะกับใครบ้าง
ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดริมฝีปาก :
- ห้ามนวด บีบ หรือกดแรงบริเวณริมฝีปากในช่วง 48 ชั่วโมงแรก เพื่อป้องกันการเคลื่อนด้ว
ของฟิลเลอร์
2. งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่ที่มีส่วนผสมระคายเคือง :
- หลีกเลี่ยงลิปสติกหรือลิปบาล์มที่มีสารเคมีแรง ๆ อย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังทำ
3. หลีกเลี่ยงอาหารร้อนหรือเผ็ดจัด :
- การรับประทานอาหารที่ร้อนหรือเผ็ดอาจกระตุ้นการบวมของริมฝีปากในช่วงแรก
4. งดการออกกำลังกายหนัก :
- การออกกำลังกายที่ทำให้หัวใจเต้นเร็วอาจกระตุ้นการบวมและฟกช้ำ ควรหลีกเลี่ยงอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
5. เลี่ยงการโดนความร้อนสูง :
หลีกเลี่ยงการชาวน่า การอบไอน้ำ หรือการอยู่ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงในช่วง 1 สัปดาห์
เคล็ดลับดูแลริมฝีปากเพื่อผลลัพธ์ที่ยาวนาน
1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ :
- การดื่มน้ำช่วยให้ฟิลเลอร์คงตัวดีขึ้น และช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื้น
2. ใช้ลิปบาล์มที่เพิ่มความชุ่มชื้น :
- เลือกใช้ลิปบาล์มที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น เชียบัดเดอร์ หรือวิตามินอี เพื่อคงความชุ่มชื้น
3. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์:
- การรับประทานอาหารที่มีวิตามินสูง เช่น วิตามินซี และคอลลาเจน ช่วยเสริมสร้างสุขภาพผิว
4. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ :
- การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อาจทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น
5. นัดตรวจติดตามกับแพทย์ :
- หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรกลับมาพบแพทย์เพื่อดรวจสอบผลลัพธ์และแก้ไขจุดที่อาจต้องปรับ
ผลลัพธ์ที่ได้จากการดูแลที่ถูกวิธี
1. ริมฝีปากดูอวบอิ่มยาวนานขึ้น :
การดูแลอย่างเหมาะสมช่วยให้ฟิลเลอร์คงตัวได้นาน 6-12 เดือนขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์
2. ลดอาการบวมและฟกช้ำ :
การปฏิบัติตามคำแนะนำหลังฉีดช่วยลดอาการบวมและฟกช้ำได้อย่างรวดเร็ว
3. ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ :
การดูแลที่ถูกวิธีช่วยให้รูปทรงปากเข้าที่และดูเป็นธรรมชาติ
การฉีดฟิลเลอร์ปากเหมาะกับใครบ้าง?
1. ผู้ที่ต้องการปรับรูปทรงปาก : สำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปากเบี้ยวหรือเพิ่มความอวบอิ่ม
2. ผู้ที่มีปัญหาปากแห้งแตก : ฟีลเลอร์ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากดูสุขภาพดี
3. ผู้ที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจ : การปรับรูปทรงริมฝีปากช่วยให้ลุคโดยรวมดูดีขึ้น
4. ผู้ที่อยากให้ลุคดูอ่อนเยาว์ : การเติมฟิลเลอร์สามารถช่วยลดริ้วรอยบริเวณริมฝีปาก
การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้ผลลลัพธ์ออกมาสวยงามและคงอยู่ได้นาน
การปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดจะช่วช่วยลดความเสี่ยงและทำให้คุณมั่นใจใจได้ว่ารูปทรงริมฝีปากจะเป็นไปตามที่ต้องการ หากคุณสนใจปรับรูปทรงปาก สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้ที่ (ชื่อคลินิกของคุณ) เพื่อประเมินและให้คำแนะนำฟรี !