โบท็อกคืออะไร ?
- เขียนโดย : drohadmin
- มีคนอ่านบทความไปแล้ว : 0
- วันที่อัพเดท : 14 December 2024
โบท็อก (Botox) เป็นชื่อทางการค้าของสารโบโทรลีนัมท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin A) ซึ่งเป็นโปรตีนที่สร้างจากแบคทีเรีย Clostridium botulinum ซึ่งสารนี้มีคุณสมบัติในการยับยั้งการส่งสัญญาณไปยังประสาทไปยังกล้ามเนื้อส่งผลให้กล้ามเนื้อที่ถูกฉีดเข้าไปเกิดการผ่อนคลายและการหดตัว
การฉีดโบท็อกนิยมใช้ในทางความงามเพื่อลดเลือนริ้วรอย เช่นริ้วรอยบนหน้าผาก ริ้วรอยรอบดวงตา ริ้วรอยระหว่างคิ้ว Botox ยังใช้เพื่อการปรับทุกหน้า เช่น ลดกรามกับคาง และลิฟท์ติ้งหน้า นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในทางการแพทย์สำหรับรักษาอาการไมเกรน ภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ และภาวะกล้ามเนื้อแข็งเกร็ง
หลักการทำงานของโบท็อก
โบท็อกทำงานโดยการยับยั้งการหลั่งสารสื่อประสาทชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า อะเซทินโคลีน (Acetylcholine) ที่บริเวณจุดเชื่อมต่อระหว่างเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ เมื่อสารสื่อนี้ถูกยับยั้ง การส่งสัญญาณจากปราสาทไปยังกล้ามเนื้อจะหยุดชะงัก ทำให้กล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องเกิดการผ่อนคลายและไม่สามารถหดตัวได้ชั่วคราวซึ่งจะช่วยลดเลือนริ้วรอยที่เกิดขึ้นจากการขยับของกล้ามเนื้อ
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับโบท็อก
1. ประโยชน์ทางด้านความงาม
- โบท็อกเป็นวิธีหนึ่งในการนิยมใช้ลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้าเช่นริ้วรอยระหว่างคิ้ว (frown lines) ริ้วรอยบนหน้าผาก และริ้วรอยที่ดวงตา (crow’s feet) โดยการผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดรอยเหี่ยวย่น
- ใช้ในการปรับรูปหน้า เช่น การลดกรามเพื่อให้ใบหน้าเรียวลง การปรับคาง การลิฟท์หน้าให้ดูเรียวเล็กลง
2. การใช้งานในทางการแพทย์
- ในทางการแพทย์นิยมใช้โบท็อกไปในเรื่องของด้านความงามซึ่ง Botox จะรักษาภาวะทางการแพทย์ได้เช่น ภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ (Hyperhidrosis) อาการไมเกรนเรื้อรัง กล้ามเนื้อเกร็งจากสภาวะสมองพิการ และตากระตุก
3. ระยะเวลาในการเห็นผล
- ผลลัพธ์จากการฉีดโบท็อกมักจะเริ่มเห็นผลภายใน 3-7 วันหลัง วันหลังฉีดและจะเห็นผลชัดเจนภายใน 2 สัปดาห์ผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานประมาณ 3-6 เดือนขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลหลังจากนั้นกล้ามเนื้อจะกลับมาทำงานปกติ ซึ่งการที่ทำให้ผลลัพธ์มีอย่างต่อเนื่องจะต้องทำการฉีดเพิ่มเติม
- ควรหลีกเลี่ยงการใช้โบท็อกในผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับระบบประสาท หรือกล้ามเนื้อเช่นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Myasthenia Gravis)
4. ข้อควรระวังและผลข้างเคียง
- โบท็อกเป็นการรักษาที่ค่อนข้างปลอดภัยหากดำเนินโดยทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่ในบางกรณีอาจจะเกิดผลข้างเคียง เช่น อาการฟกซ้ำ หรือปวดบริเวณที่ฉีด และอาจมีอาการหยังตาตกหรือคิ้วตกหากฉีดผิดตำแหน่ง
- ควรหลีกเลี่ยงการใช้โบท็อกในผู้ที่มีปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทหรือกล้ามเนื้อ เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Myasthenia Gravis)
5. การเลือกแพทย์และสถานที่
- สิ่งสำคัญที่สุดในการรับบริการ Botox คือการเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรองมาตรฐาน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้นั้นปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
โบท็อก เป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยและปรับรูปหน้าแต่การเลือกแพทย์และการปฏิบัติตามคำแนะนำหลังการรักษาเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ความปลอดภัยและผลลัพธ์ดีที่สุด
โบท็อกฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง ?
โบท็อกสามารถฉีดได้ในหลายตำแหน่งบนร่างกาย เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ต้องการซึ่งโดยทั่วไปนิยมใช้ในการฉีดเพื่อลดเลือนริ้วรอย ปรับรูปหน้า และรักษาปัญหาทางการแพทย์บางอย่าง ซึ่งบริเวณต่อไปนี้คือบริเวณที่นิยมฉีด
1. บริเวณใบหน้า
- หน้าผาก : เพื่อลดเลือนริ้วรอยแนวนอนที่เกิดจากการขยับของกล้ามเนื้อหน้าผาก
- ระหว่างคิ้ว : เพื่อลดเลือนริ้วรอยลึกระหว่างคิ้วที่เกิดจากการขมวดคิ้ว
- รอบดวงตา : เพื่อลดเลือนริ้วรอยรอบดวงตาที่เกิดจากการยิ้ม
- จมูก : หลอดเลือดริ้วรอยที่เกิดขึ้นข้างจมูกเมื่อทำหน้าบูดบึ้งหรือยิ้ม
- รอบริมฝีปาก : ลดเลือดริ้วรอยที่เกิดรอบริมฝีปากซึ่งมักพบในผู้สูงอายุหรือคนที่สูบบุหรี่
- คาง : ทางเพื่อเป็นการปรับลักษณะของคางให้เรียบเนียนหรือแก้ไขปัญหาผิวคางที่เป็นหลุมเล็กๆ
- กราม : ลดกล้ามเนื้อกามเพื่อให้ใบหน้าเรียวลงและช่วยลดอาการนอนกัดฟัน
- ยกคิ้ว : ฉีดเพื่อยกคิ้วให้สูงขึ้นทำให้ดวงตาดูโตและสดใส
2.ลำคอและกรอบหน้า
- ลำคอลดเลือนริ้วรอยแนวตั้งที่ลำคอซึ่งมักเกิดจากการขยับกล้ามเนื้อบริเวณคอ
- กรอบหน้าช่วยปรับขอบหน้าให้ดูชัดเจนมากขึ้นโดยเฉพาะในกรณีที่กล้ามเนื้อคอบริเวณนี้ทำให้กรอบน่าดูหย่อนคล้อย
3.บริเวณที่ใช้เพื่อการรักษา
- รักแร้ : สามารถฉีดได้ที่รักแล้วเพื่อลดการหลั่งเหงื่อในภาวะผู้ที่มีเหงื่อออกมากผิดปกติ
- ฝ่ามือและฝ่าเท้า : ใช้ในการลดการหลั่งเหงือกบริเวณฝ่ามือและฝ่าเท้า
- ไมเกรนโบท็อก : สามารถฉีดในบริเวณหน้าผากขมับคอและศีรษะเพื่อช่วยบรรเทาอาการไมเกรนเรื้อรัง
4.บริเวณอื่นๆ
- สะโพกและต้นขา : สำหรับอาการกล้ามเนื้อแข็งเกร็ง ใช้รักษาภาวะกล้ามเนื้อแข็งเกร็งในผู้ป่วยบางกรณีเช่นผู้ป่วยที่มีสภาวะสมองพิการ
ผลลัพธ์ที่ได้
การฉีดโบท็อก ในแต่ละตำแหน่งจะทำให้ผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างกันขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดและปัญหาที่ต้องการแก้ไขการฉีดโบท็อกในตำแหน่งที่เหมาะสมสามารถทำให้ใบหน้าโดยสดใสขึ้นหลอดเลือดริ้วรอยและปรับรูปหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งการฉีดโบท็อกควรแนะนำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดี
โบท็อกอยู่ได้นานแค่ไหน ?
ผลลัพธ์จากโบท็อกนั้นจะอยู่ได้นานประมาณ 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ตำแหน่งการฉีด ปริมาณที่ใช้ การดูแลรักษาหลังการฉีด รวมถีงสภาพผิวและพฤติกรรมของแต่ลถบุคคล หลังจากนั้น กล้ามเนื้อจะค่อยๆกลับมาทำงานได้ปกติ ริ้วรอยหรือการหดตัวของกล้ามเนื้อจึงเริ่มกลับมาเหมือนเดิม
ทำไมโบท็อกถึงอยู่ได้ไม่ถาวร ?
โบท็อกทำงานโดยการที่ยับยั้งการหลั่งสารสื่อประสาทที่เรียกว่า แะเซทิลโคลีน (Acetylcholine)
ที่มีหน้าที่ส่งสัญญาณจากระบบประสาทไปยังกล้ามเนื้อ เมื่อสารนี้ถูกยับยั้ง กล้ามเนื้อจะหดตัวชั่วคราว ทำใ้ริ้วรอยลดลง ซึ่งร่างกายของเราตะค่อยๆ ฟื้นฟูกระบวนการส่งสัญญาณระหว่างประสาทและกล้ามเนื้อขึ้นใหม่หลังจากระยะเวลาหนึ่ง การฟื้นฟูนี้จะทำให้กล้ามเนื้อกลับมาทำงานตามปกติ
ปัจจัยที่ส่งผลต่อระยะเวลาของโบท็อก
- ตำแหน่งที่ฉีด : บริเวณที่มีการขยับกล้ามเนื้อมาก เช่น รอบดวงตาหน้าผาก อาจทำให้โบท็อกหมดฤทธิ์เร็วกว่าเนื่องจากการเคลื่อนไหวบ่อย
- ปริมาณโบท็อกที่ใช้ : ปริมาณโบท็อกที่ใช้ในแต่ลจุดอาจะส่งผลต่อระยะเวลาการคงอยู่ของผลลัพธ์
- อายุและสภาพผิว : อายุที่มากขึ้นและสภาพผิวที่หย่อนคล้อยอาจทำให้ผลลัพธ์คงอยู่สั้นลง
- พฤติกรรมส่วนบุคคล : การดูแลรักษาหลังการฉีด เช่น หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีด การออกกำลังกายหนัก และการาัมผัสความร้อนจัด สามารถส่งผลต่อระยะเวลาการอยู่โบท็อก
ฉีดโบท็อกที่ ดร.โอ้ คลินิกน่าน โบท็อกน่านอันดับ 1
ขั้นตอนการฉีดโบท็อก ดร.โอ้ คลินิกน่าน มีเอกลักษณ์เฉพาะที่เน้นเรื่องความปลอดภัยประสิทธิภาพ และความใส่ใจในรายละเอียด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดโดยมีขั้นตอนหลักๆดังนี้
- การประเมินเบื้องต้นและปรึกษาแพทย์
- การเตรียมผิวและฆ่าเชื้อ
- การวางแผนและออกแบบการฉีดเฉพาะบุคคล
- การฉีดโบท็อก
- การดูแลหลังการฉีด
- โปรโมชั่นและสิทธิพิเศษ
ฉีดโบท็อกที่ Dr.OH Clinic ดีอย่างไร ?
- การใส่ใจและการดูแลที่เป็นเอกลักษณ์ : หมอโอ้ให้ความสำคัญกับการดูแลที่เป็นส่วนบุคคลโดยเน้นการให้คำปรึกษาและการรักษาที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับแต่ละบุคคล
- เทคนิคการฉีดที่แม่นยำ : ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของหมอโอ้การฉีดจะมีความแม่นยำสูงลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงและให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
- ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง : โบท็อกที่ใช้ในคลินิกเป็นของแท้และมีคุณภาพสูงจากแบรนด์ชั้นนำทั่วโลกทำให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัย
Dr.OH Clinic จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการบริการ Botox ที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
ดร.โอ้ คลินิกน่าน ให้บริการด้านผลิตภัณฑ์การฉีดโบท็อกทุกประการเพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยลูกค้าสามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินตำแหน่งที่ได้ฉีดโบท็อกและประเมินปริมาณที่จะใช้โบท็อกบนใบหน้าเพื่อการปรับรูปหน้าที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด
ราคา Botox ที่ Dr.OH Clinic มีให้เลือกหลากหลายราคาหลากหลายยี่ห้อตามความต้องการของแต่ละบุคคลซึ่งหมอโอ้และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญภายใต้การดูแลของหมอโอ้จะเป็นผู้เลือกสรรผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับปริมาณการใช้โบท็อกบนใบหน้าและงบประมาณของลูกค้าแต่ละท่านพร้อมกับมีส่วนลดและโปรโมชั่นมากมายที่ได้จัดขึ้นในแต่ละเดือนนอกจากราคาจะคุ้มค่าแล้วยังมีความปลอดภัยทุกผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้หมอโอ้ใส่ใจและเลือกสรรแต่สิ่งที่ดีที่สุดเพื่อให้ผลลัพธ์ตรงใจและมีประสิทธิภาพมากที่สุด