Sculptra คืออะไร? เพิ่มผิวเด็ก ยกกระชับได้
- เขียนโดย : drohadmin
- มีคนอ่านบทความไปแล้ว : 0
- วันที่อัพเดท : 10 January 2025
Sculptra คืออะไร?
Sculptra คือสายกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว (biosimulator) ซึ่งมีส่วนประกอบหลักคือกรดโพลีแอลแลกติก (Poly-L-lactic acid หรือ PLLA) ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติของร่างกาย ทำให้ผิวดูแน่นและยกกระชับมากขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับการปรับรูปหน้า ลดเลือนริ้วรอยลึก และเพิ่มความกระชับของผิวในบริเวณต่างๆ เช่น แก้ม ร่องแก้ม ขากรรไกร และบริเวณอื่นๆ ที่ต้องการปรับโครงสร้าง
สครับตร้ามีความพิเศษตรงที่ไม่ใช่ฟิลเลอร์ที่ฉีดเพื่อเติมเต็มในทันที แต่จะทำงานโดยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ค่อยๆ เกิดขึ้น ส่งผลให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติ และผลลัพธ์จะดีขึ้นเรื่อยๆ ในระยะเวลา 2-6 เดือนหลังการฉีด โดยทั่วไปผลการรักษาสามารถคงอยู่ได้นานถึง 2 ปี
ส่วนผสมของ สครับตร้าคืออะไร
สครับตร้าคือ กรดโพลีแอลแลกติก (Poly-L-lactic acid หรือ PLLA) ซึ่งเป็นสารที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติในร่างกาย (biodegradable) PLLA ทำหน้าที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิว เมื่อฉีดเข้าไปจะเริ่มกระบวนการกระตุ้นร่างกายให้ผลิตคอลลาเจนตามธรรมชาติขึ้นมา ซึ่งช่วยในการฟื้นฟูและยกกระชับผิว
นอกจากนี้ สครับตร้า ยังประกอบด้วยส่วนผสมอื่นๆ เช่น น้ำกลั่นปลอดเชื้อ (sterile water) และน้ำเกลือ (saline solution) เพื่อช่วยเจือจางและเตรียมสารละลายสำหรับการฉีด
สครับตร้าช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง
สครับตร้า ช่วยแก้ปัญหาผิวและความงามในหลายด้าน เนื่องจากคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ ซึ่งสามารถช่วยในเรื่องต่างๆดังนี้
- ลดเลือนริ้วรอยลึก : ช่วยเติมเต็มและลดเลือนริ้วรอยลึก เช่น ร่องแก้ม ริ้วรอยบริเวณรอบปาก และริ้วรอยบนใบหน้า ทำให้ผิวดูเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น
- ยกกระชับผิว : ช่วยยกกระชับผิวที่เริ่มหย่อนคล้อย โดยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้น
- ปรับโครงหน้า : สครับตร้าสามารถช่วยปรับรูปหน้าให้ดูสมดุลและยกกระชับ เช่น การเติมแก้มตอบ หรือเพิ่มความเต็มบริเวณขมับและทาง
- เพิ่มความยืดหยุ่นและความหนาแน่นของผิว : การสร้างคอลลาเจนช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นและแน่นขึ้น ทำให้ดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น
- ฟื้นฟูผิวในระยะยาว : เนื่องจาก สครับตร้า กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนเองของร่างกาย ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นการฟื้นฟูผิวในระยะยาว ผลลัพธ์ที่เห็นจะค่อยๆ ปรากฏและสามารถคงอยู่ได้นานถึง 2 ปี
การใช้สครับตร้าเป็นวิธีที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับโครงหน้าและฟื้นฟูผิวอย่างเป็นธรรมชาติ
สครับตร้าเหมาะกับใคร?
หัตถการนี้เหมาะกับคนที่ต้องการฟื้นฟูและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว รวมถึงการปรับปรุงหน้าและยกกระชับผิวในระยะยาว โดยเฉพาะกลุ่มคนดังนี้
- ผู้ที่มีริ้วรอยลึก : หัตถการนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีริ้วรอยลึกบนใบหน้า เช่น ร่องแก้มลึก ริ้วรอยรอบปาก หรือร่องจมูกที่เกิดจากการสูญเสียคอลลาเจนตามอายุ
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย : เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีผิวหย่อนคล้อยหรือผิวสูญเสียความยืดหยุ่น ต้องการยกกระชับผิวให้กลับมาเต่งตึงอย่างเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
- ผู้ที่มีใบหน้าโครงหน้าตอบ : ผู้ที่มีแก้มตอบ ขมับตอบ หรือต้องการเพิ่มวอลลุ่มให้ใบหน้าดูอิ่ม เต็มและสมดุลมากขึ้น
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวในระยะยาว : หัตถการเป็นตัวเลือกที่สำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิวในระยะยาว เพราะผลลัพธ์ของการกระตุ้นคอลลาเจนจะค่อยๆ แสดงผลและสามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปี
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ : เนื่องจาก Sculptra กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติของร่างกาย ผลลัพธ์ที่ได้จะดูเป็นธรรมชาติและค่อยๆ ดีขึ้นตามเวลา
- ผู้ที่ไม่ต้องการการรักษาที่เห็นผลทันที : หัตการนี้เหมาะสำหรับคนที่ยอมรับว่าการเปลี่ยนแปลงจะค่อยๆเกิดขึ้นในระยะเวลาหลายเดือน ไม่ใช่การเติมเต็มทันทีเหมือนฟิลเลอร์
หัตถการนี้ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ในทันที หรือผู้ที่มีปัญหาผิวบางประเภท เช่น การติดเชื้อหรือการอักเสบในบริเวณที่จะฉีด
Sculptra แตกต่างจาก filler อย่างไร?
Sculptra และ Filler ทั้งสองมีจุดประสงค์ในการปรับรูปหน้าและแก้ปัญหาผิว แต่มีความแตกต่างกันในหลายด้าน ดังนี้
- สารที่ใช้
- สครับตร้า : มีส่วนประกอบหลักคือ กรดโพลีแอลแลกติก (Poly-L-lactic acid หรือ PLLA) ซึ่งทำหน้าที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติของร่างกาย ทำให้ผิวกระชับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป
- Fille : มักใช้กรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic Acid) หรือ HA ซึ่งเป็นสารเติมเต็มที่ช่วยให้ผิวดูอิ่มน้ำและสามารถเพิ่มปริมาตรของผิวได้ทันทีหลังการฉีด
- วิธีการทำงาน
- สครับตร้า: กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของร่างกาย ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ค่อยๆแสดงออกในระยะเวลา 2-6 เดือน ผลที่น่าจะอยู่ได้นานถึง 2 ปี การปรับรูปหน้าจะเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติและช้าๆ
- Filler : เติมเต็มปริมาตรของผิวในทันทีที่ฉีด ทำให้ผลลัพธ์เห็นได้ทันที แต่จะไม่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ผลลัพธ์จากฟิลเลอร์ทั่วไปจะอยู่ได้ประมาณ 6 – 18 เดือน ขึ้นอยู่กับประเภทของฟิลเลอร์
- ผลลัพธ์
- สครับตร้า : ผลลัพธ์จะไม่เห็นทันทีหลังฉีด แต่จะค่อยๆดีขึ้นเมื่อร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวดูยกกระชับและเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติในระยะยาว
- Filler : เห็นผลทันทีที่ฉีด เหมาะสำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์รวดเร็ว เช่น เติมเต็มร่องแก้ม ขมับ ริมฝีปาก หรือจมูก
- ระยะเวลาที่ผลลัพธ์อยู่ได้นาน
- สครับตร้า: ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 2 ปี เนื่องจากเป็นการกระตุ้นคอลลาเจนใหม่
- Filler : ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้
- เหมาะกับการใช้งานบริเวณใด
- สครับตร้า : เหมาะกับการใช้ในบริเวณที่ต้องการกระตุ้นสร้างคอลลาเจนเพื่อให้ผิวฟื้นฟูตัวเอง เช่น แก้ม ขมับ ร่องแก้ม และบริเวณที่ต้องการยกกระชับ
- Filler : เหมาะกับการเติมเต็มในบริเวณที่ต้องการผลลัพธ์ทันที เช่น ริมฝีปาก ร่องแก้ม ขมับ หรือจมูก
- จำนวนครั้งที่ต้องฉีด
- สครับตร้า: ต้องฉีดหลายครั้ง ประมาณ 2-3 ครั้ง เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนาน
- Filler : ฉีดเพียงครั้งเดียวก็เห็นผลทันที แต่ผลลัพธ์จะอยู่ได้ไม่นานเท่า สครับตร้า
สรุป
สครับตร้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและยาวนานโดยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ขณะที่ Filler เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว
การดูแลตัวเอง ก่อน และหลังทำ สครับตร้า
การดูแลตัวเองทั้งก่อนและหลังทำ สครับตร้า เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดและลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนี้
การดูแลตัวเองก่อนทำสครับตร้า
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาและอาหารเสริมบางชนิด : หลีกเลี่ยงการใช้ยาลดการอักเสบ (NSAIDs) เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน รวมถึงอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของวิตามินอี โอเมก้า 3 และสมุนไพรบางชนิด เช่น ใบแปะก๊วย โสม ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนการรักษา เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดรอยช้ำ
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ : นกดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 24-48 ชั่วโมงก่อนการทำสครับตร้า เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดรอยช้ำและบวม
- แจ้งแพทย์เกี่ยวกับประวัติสุขภาพ : หากคุณมีประวัติการแพ้ยา การเจ็บป่วย หรือทานยาบางชนิด ควรแจ้งแพทย์ล่วงหน้าเพื่อให้แพทย์สามารถประเมินความเสี่ยงได้
การดูแลตัวเองหลังทำ Sculptra
- นวดบริเวณที่ฉีด : หลังทำ Sculptra ควรนวดบริเวณที่ฉีดเบาๆประมาณ 5 นาที วันละ 5 ครั้ง เป็นเวลา 5 วัน (5-5-5 กฎ) เพื่อกระจายสารให้สม่ำเสมอและลดโอกาสการเกิดก้อนแข็งใต้ผิว
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก : ลดการออกกำลังกายหรือกิจกรรมที่ทำให้เกิดความร้อนสูงหรือเหงื่อออกมากอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง หลังทำเพื่อลดโอกาสการเกิดการอักเสบหรือบวม
- หลีกเลี่ยงความร้อนและการอาบแดด : หลีกเลี่ยงการอาบแดด การอบซาวน่า การสัมผัสกับความร้อนสูงเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังทำเพื่อลดความเสี่ยงของอาการบวมและรอยแดง
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าหนัก : ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์แต่งหน้าที่หนักหรือการขัดผิวบริเวณที่ฉีดในวันแรกหลังทำ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าแรงๆ : ควรระวังไม่ให้ใบหน้าถูกกดทับหรือถูกสัมผัสแรงๆหลังการฉีด เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของสารที่ฉีด
- ดื่มน้ำมากๆ : การดื่มน้ำมากๆจะช่วยให้สารใน Sculptra ทำงานได้ดีขึ้นและส่งเสริมการสร้างคอลลาเจนอย่างมีประสิทธิภาพ
สิ่งที่อาจเกิดขึ้นหลังทำหัตถการ
- อาจมีอาการบวม แดง หรือรอยช้ำเล็กน้อยในบริเวณที่ฉีด อาการเหล่านี้มักจะหายไปใน 1-2 วัน
- บางครั้งอาจรู้สึกถึงก้อนใต้ผิวหนังในบริเวณที่ฉีด แต่การนวดตามคำแนะนำของแพทย์จะช่วยป้องกันและลดปัญหานี้
การดูแลตัวเองอย่างถูกต้องจะช่วยให้ผลลัพธ์ของ Sculptra ค่อยๆ แสดงผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง ?
สามารถฉีดในหลายตำแหน่งบนใบหน้าและร่างกาย ที่ต้องการการฟื้นฟูและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน โดยตำแหน่งที่นิยมฉีดมีดังนี้
ตำแหน่งที่สามารถฉีดบนใบหน้า
- แก้ม (Cheeks) : ช่วยเติมเต็มแก้มตอบและยกกระชับบริเวณแก้ม ทำให้ใบหน้าดูอิ่มขึ้น
- ร่องแก้ม (Nasolabial Folds) : ลดเลือนร่องลึกที่เกิดขึ้นบริเวณระหว่างจมูกและปาก ทำให้ผิวเรียบเนียนและดูอ่อนเยาว์ขึ้น
- ขมับ (Temples) : เติมเต็มขมับที่ตอบ ทำให้ใบหน้าดูสมดุลมากยิ่งขึ้น
- กรอบหน้า (Jawline) : ช่วยยกกระชับผิวบริเวณกรอบหน้า ทำให้กรอบหน้าคมชัดขึ้น ลดความหย่อนคล้อย
- คาง (Chin) : ช่วยเติมเต็มคางที่ดูสั้นหรือยุบลง ทำให้ไมด้าดูสมดุลมากยิ่งขึ้น
- คอและใต้คาง (Neck and under the chin) : ช่วยกระชับผิวบริเวณคอและใต้คาง ลดความหย่อนคล้อยของผิวบริเวณนี้
ตำแหน่งที่สามารถฉีดบนร่างกาย
- มือ (Hand) : ช่วยเติมเต็มผิวบริเวณหลังมือที่เริ่มสูญเสียคอลลาเจน ทำให้มือดูอ่อนเยาว์และเรียบเนียน
- หน้าท้องและสะโพก (Abdomen and hips) : ใช้ในการยกกระชับและฟื้นฟูผิวที่หย่อนคล้อยบริเวณหน้าท้องและสะโพก
- ต้นขาและแขน (Thighs and arms) : ช่วยกระชับผิวบริเวณต้นขาและแขนที่เริ่มหย่อนคล้อย
- สะโพก (Hip) : สำหรับการยกสะโพกและเพิ่มวอลลุ่มบริเวณสะโพก เรียกว่า “Sculptra Butt Lift” ที่ช่วยให้สะโพกดูเต็มและกระชับมากขึ้น
ตำแหน่งการฉีดขึ้นอยู่กับความต้องการและปัญหาของแต่ละบุคคล ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยประเมินและเลือกตำแหน่งที่เหมาะสมเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด